เหตุการณ์ปล้นทองแท้ด้วยทองปลอม ที่รู้ตัวอีกทีทองก็หายไปแล้ว! เคยเกิดขึ้นจริงในหน้าข่าว แล้วคุณจะทำอย่างไรเมื่อลูกค้ากลายมาเป็นผู้ไม่หวังดี บทความนี้จะพาคุณมาส่องเทคนิคการดูทองแท้ที่ใช้เวลาอย่างรวดเร็วไปด้วยกัน
ที่ลำปาง ในวันที่ 20 เม.ย. 66 ได้เกิดเหตุคนร้ายชิงทองคำด้วยเทคนิคการทำแหวนทองปลอมขอแหลกแหวนใหม่ แล้วควบมอเตอร์ไซค์หนีทันที
ที่นครราชสีมา ในวันที่ 14 มี.ค. 66 เกิดเหตุลูกค้าเข้ามาขอดูทอง ก่อนใช้จังหวะที่เจ้าของร้านทองหันไปหยิบทองรูปพรรณ เอามือล้วงกระเป๋ากางเกงด้านหลัง และเอาสร้อยทองปลอมโยนลงพื้น
การอาศัยความไว้ใจจากเจ้าของร้าน คือวิธีที่ค้นร้ายนำมาใช้เพื่อตบตาสลับทองจริงกับทองปลอม ดังนั้นเทคนิคเร็ว ๆ ในการตรวจสอบทองคำแท้ที่คุณสามารถใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีได้ คือ
วิธีนี้ใช้ได้รวดเร็วที่สุดสำหรับสร้อยทอง ทองปลอมนั้นจะมีลักษณะน้ำหนักไม่เท่ากันทั้งเส้น โดยจะหนักเทไปด้านใดด้านหนึ่ง
ทองคำปลอมจะใช้โลหะเคลือบทองที่สามารถดูดทองขึ้นมาได้ แต่ถ้าเป็นทองแท้ 96.5% หรือ 99.9% แม่เหล็กจะดูดไม่ขึ้น เว้นแต่เป็นทองปลอมที่ใช้ทองเหลือง อลูมิเนียม ทองแดง ไม่ใช่โลหะ แม่เหล็กจะดูดไม่ขึ้นเช่นกัน
สำหรับทองคำความบริสุทธิ์ 96.5% (มาตรฐานในประเทศไทย) ทองรูปพรรณ น้ำหนัก 1 บาท เท่ากับ 15.16 กรัม ทองคำแท่ง น้ำหนัก 1 บาท เท่ากับ 15.244 กรัม
สำหรับทองคำความบริสุทธิ์ 99.99% ทองคำ 1 กิโลกรัม เท่ากับ 32.1508 ออนซ์ ทองคำ 1 ออนซ์ เท่ากับ 31.104 กรัม
บางครั้งการจดจ่อกับการตรวจสอบทองคำ อาจทำให้เป็นการเปิดโอกาสให้คนร้ายหนีจากร้านได้ทันที ดังนั้นหากมีคนอยู่หน้าร้านทองมากกว่าหนึ่งคน หนึ่งในนั้นต้องจับจ้องไปที่ตัวคนร้ายในร่างลูกค้าไม่ให้คลาดสายตา และลงมือล็อคประตูร้านทันทีเมื่อเกิดเหตุผิดปกติ
และเมื่อล็อคประตูได้ การจับกุมผู้ไม่หวังดีอย่างถูกต้อง คือการติดต่อเจ้าหน้าที่ให้ลงพื้นที่ทันที เพราะถ้าหากคุณเป็นฝ่ายพาผู้ไม่หวังดีไปยังสถานีตำรวจ พวกเขาอาจจะใช้โอกาสการเดินทางหลบหนีได้เช่นเดียวกัน
แต่หากคนร้ายมีอาวุธปืน ทางที่ดีที่สุดคือการยอมสละทรัพย์สินเพื่อรักษาชีวิต และมองหาตัวช่วยจำกัดความเสียหายด้วยประกันทอง