EN | TH | CN

 เปิดเคล็ดลับวิธีดูหยกแท้ แยกอย่างไรให้รู้ว่าหยกจริง หยกปลอม

วิธีดูหยกแท้

หยกเป็นอัญมณีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบเครื่องประดับ ไม่เพียงแต่ความสวยงามเท่านั้น แต่ยังเชื่อกันว่าหยกสามารถช่วยปรับสมดุลของชีวิตได้อีกด้วย ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปเรียนรู้วิธีดูหยกแท้ และเคล็ดลับในการแยกหยกจริงจากหยกปลอม เพื่อให้คุณสามารถเลือกซื้อหยกได้อย่างมั่นใจและไม่ถูกหลอก

ทำความรู้จักกับ หยก อัญมณีมงคล

หยกเป็นอัญมณีที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีความสำคัญในวัฒนธรรมหลายแห่ง โดยเฉพาะในเอเชีย หยกไม่ได้เป็นเพียงแค่หินสวย ๆ เท่านั้น แต่ยังถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความมงคล ความบริสุทธิ์ และความอุดมสมบูรณ์ ในประเทศจีน หยกถูกเรียกว่า “หยู่” ซึ่งหมายถึง “อัญมณีแห่งสวรรค์” และเชื่อกันว่าสามารถปกป้องผู้สวมใส่จากสิ่งชั่วร้ายและนำโชคลาภมาให้ได้ด้วย 

ประเภทของหยก

หยกเป็นอัญมณีที่มีความหลากหลายและมีเสน่ห์เฉพาะตัว ซึ่งหยกสามารถแบ่งออกตามลักษณะทางกายภาพและแหล่งกำเนิด ได้หลัก ๆ 2 ประเภทด้วยกัน ดังนี้

หยกเจไดต์ (Jadeite)

หยกเจไดต์ (Jadeite) เป็นที่รู้จักในชื่อ “หยกพม่า” มีราคาสูงและได้รับความนิยมมากที่สุด หยกเจไดต์มีลักษณะเป็นหินกรวดขนาดใหญ่ เนื้อแน่นแข็ง และมีความเหนียวสูง มีหลากหลายสี เช่น ขาว เขียว เหลือง น้ำตาล ม่วง เทา และดำ สามารถพบได้มากที่พม่า และบางส่วนในญี่ปุ่น รัสเซีย เม็กซิโก และอเมริกา

หยกเนฟไฟต์ (Nephrite)

หยกเนฟไฟต์ (Nephrite) มักเรียกว่า “หยกจีน-ไต้หวัน” มีราคาและความนิยมรองลงมาจากหยกเจไดต์ หยกเนฟไฟต์มีลักษณะเนื้ออ่อนแต่มีความเหนียวมาก มีตั้งแต่สีเขียวอ่อนจนเกือบขาว เขียวใบไม้อมดำ พบได้มากในนิวซีแลนด์และออสเตรเลีย

การแบ่งเกรดของหยก

การแบ่งเกรดของหยก

การแบ่งเกรดของหยกเป็นสิ่งสำคัญในการกำหนดคุณภาพและราคา โดยทั่วไปแล้ว หยกจะถูกแบ่งออกเป็น 3 เกรดหลัก ซึ่งสะท้อนถึงคุณภาพและการปรับแต่งที่หยกได้รับ การแบ่งเกรดนี้ช่วยให้ผู้ซื้อสามารถเปรียบเทียบและตัดสินใจเลือกซื้อหยกได้อย่างมีข้อมูล

เกรด A

หยกเกรด A คือหยกธรรมชาติที่ไม่ผ่านการปรับแต่งใด ๆ นอกจากการเจียระไนและขัดเงา เป็นหยกที่มีคุณภาพสูงสุดและมีราคาแพงที่สุด ลักษณะเด่นของหยกเกรด A คือ

  • มีความโปร่งใสและเนื้อแน่น
  • สีสันสวยงามตามธรรมชาติ
  • ไม่มีรอยแตกหรือตำหนิที่เห็นได้ชัด
  • เมื่อส่องด้วยไฟ จะเห็นเนื้อหยกที่สม่ำเสมอ

เกรด B

หยกเกรด B เป็นหยกที่ผ่านการปรับปรุงคุณภาพบางส่วน โดยการอาบน้ำยาหรือเคลือบด้วยพลาสติก เพื่อเพิ่มความใสและซ่อนรอยแตกเล็ก ๆ ลักษณะของหยกเกรด B มีดังนี้

  • มีความใสมากกว่าหยกเกรด A แต่อาจดูไม่เป็นธรรมชาติ
  • อาจมีรอยแตกเล็ก ๆ ที่ถูกซ่อนไว้ด้วยสารเคลือบ
  • ราคาถูกกว่าหยกเกรด A มาก
  • เมื่อส่องด้วยไฟ อาจเห็นความไม่สม่ำเสมอของเนื้อหยก

เกรด C

หยกเกรด C เป็นหยกที่ผ่านการปรับปรุงคุณภาพมากที่สุด โดยการย้อมสีและอัดน้ำยา ลักษณะของหยกเกรด C มีดังนี้

  • สีสันสดใสผิดธรรมชาติ
  • อาจมีรอยแตกหรือตำหนิที่ถูกซ่อนไว้ด้วยสารเคลือบและสี
  • ราคาถูกที่สุดในบรรดาหยกทั้งสามเกรด
  • เมื่อส่องด้วยไฟ จะเห็นความไม่สม่ำเสมอของสีและเนื้อหยกอย่างชัดเจน

วิธีดูหยกแท้มีอะไรบ้าง

วิธีดูหยกแท้มีอะไรบ้าง

ด้วยความนิยมหยกที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีการปลอมแปลงหยกมากขึ้นตามไปด้วย การรู้จักวิธีดูหยกแท้จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่สนใจจะซื้อหยกสักชิ้นมาใส่เป็นเครื่องประดับ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้หยกแท้ที่มีคุณภาพคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป วิธีการดูหยกแท้มีหลายวิธี

ดูจากเนื้อหยก

วิธีดูหยกให้สังเกตเนื้อหยก ซึ่งเป็นวิธีพื้นฐานที่สำคัญในการแยกหยกแท้จากหยกปลอม หยกแท้มักมีความโปร่งแสงเล็กน้อย โดยเฉพาะเมื่อนำไปส่องไฟ เนื้อหยกจะมีความเรียบเนียนสม่ำเสมอ แต่อาจมีลวดลายธรรมชาติที่ไม่สมบูรณ์แบบ เช่น จุดสีหรือเส้นสีที่แทรกอยู่ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของหยกแท้ ในทางตรงกันข้าม หยกปลอมมักมีเนื้อที่สม่ำเสมอเกินไปหรือมีฟองอากาศเล็ก ๆ แทรกอยู่ การใช้แว่นขยายส่องดูเนื้อหยกอย่างละเอียดจะช่วยให้คุณสังเกตความแตกต่างได้ชัดเจนยิ่งขึ้น 

เสียงเคาะ 

วิธีดูหยกด้วยการฟังเสียงเคาะเป็นวิธีที่น่าสนใจและมีประสิทธิภาพในการแยกหยกแท้จากหยกปลอม หยกแท้เมื่อเคาะเบา ๆ จะให้เสียงกังวานใสคล้ายเสียงระฆัง และเสียงนั้นจะดังอยู่นานกว่าหยกปลอม ในขณะที่หยกปลอมมักให้เสียงทึบ ไม่กังวาน และเสียงจะหายไปเร็ว วิธีการทดสอบทำได้โดยใช้วัตถุแข็ง เช่น ปากกาโลหะ เคาะเบา ๆ ที่ขอบของหยก แล้วฟังเสียงที่เกิดขึ้นอย่างตั้งใจ 

เนื้อสัมผัส

เนื้อสัมผัส

การสัมผัสเนื้อหยกเป็นอีกหนึ่งวิธีดูหยกแท้ที่สามารถแยกหยกแท้หรือปลอมได้ หยกแท้มีคุณสมบัติพิเศษคือให้ความรู้สึกเย็นเมื่อสัมผัส แม้จะอยู่ในอุณหภูมิห้อง และจะค่อย ๆ อุ่นขึ้นเมื่อสัมผัสนานขึ้น นอกจากนี้ หยกแท้ยังมีความแข็งสูง ไม่สามารถขูดขีดได้ง่ายด้วยวัตถุทั่วไป ในทางกลับกัน หยกปลอมมักจะมีอุณหภูมิใกล้เคียงกับอุณหภูมิห้องและอาจมีความอ่อนนุ่มกว่า การทดสอบด้วยการสัมผัสนี้เป็นวิธีง่าย ๆ ที่คุณสามารถทำได้เองเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการเลือกซื้อหยก

ใช้ไฟส่อง

การใช้ไฟส่องเป็นวิธีการตรวจสอบหยกที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพสูง เมื่อใช้ไฟส่องผ่านหยกแท้ คุณจะสังเกตเห็นความโปร่งแสงที่สม่ำเสมอ อาจมีลวดลายหรือจุดสีที่เป็นธรรมชาติปรากฏให้เห็น ในขณะที่หยกปลอมหรือหยกที่ผ่านการปรับปรุงคุณภาพมักจะแสดงความไม่สม่ำเสมอของสีหรือเนื้อหยกอย่างชัดเจน อาจเห็นรอยแตกหรือฟองอากาศเล็กๆ ภายใน วิธีนี้ทำได้โดยใช้ไฟฉายหรือแหล่งกำเนิดแสงอื่นๆ ส่องผ่านหยก แล้วสังเกตลักษณะของแสงที่ส่องผ่าน ซึ่งจะช่วยให้คุณประเมินคุณภาพและความแท้ของหยกได้ดียิ่งขึ้น

สรุป

การเรียนรู้วิธีดูหยกแท้เป็นทักษะสำคัญสำหรับทุกคนที่สนใจหยก ไม่ว่าจะเป็นนักสะสม ผู้ค้า หรือผู้ที่ชื่นชอบ การใช้วิธีการดูหยกแท้ที่ได้แนะนำไปจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเลือกซื้อหยกแท้ที่มีคุณภาพ สำหรับผู้ที่สนใจส่งออกอัญมณี ความรู้เรื่องหยกเป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างความน่าเชื่อถือและรักษามาตรฐานสินค้า นอกจากนี้ การทำประกันทรัพย์สินมูลค่าสูงสำหรับหยกและอัญมณีอื่น ๆ ยังเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยปกป้องการลงทุนและสร้างความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจ

ติดตามหัวข้ออื่น ๆ

วิธีการเลือกซื้อเพชรแบบ 4C

ทำความรู้จักวิธีการเลือกซื้อเพชรแบบ 4C

By admin.aeginc | 16 กันยายน 2024 | ข่าวสารและอัปเดท
Read More
รวมวิธีแก้ไขกล้องวงจรปิดดูไม่ได้-แบบไม่ต้องง้อช่าง

รวมวิธีแก้ไขกล้องวงจรปิดดูไม่ได้ แบบไม่ต้องง้อช่าง

By admin.aeginc | 5 กันยายน 2024 | ระบบรักษาความปลอดภัย
Read More
เพชร CZ คืออะไร ใช่เพชรแท้มั้ยมาดูกัน

เพชร CZ คืออะไร ใช่เพชรแท้มั้ยมาดูกัน

By admin.aeginc | 25 ธันวาคม 2023 | ข่าวสารและอัปเดท
Read More