ประเภทของทองคำที่หลายคนไม่เคยรู้ 

พาดู 10 ประเภทของทองคำ พร้อมแนะนำทองมีกี่ประเภท กี่สี แล้วทองมีกี่แบบกันนะ แต่ละประเภทแต่ละแบบต่างกันอย่างไร สีที่แสดงออกมานั้นเกิดจากอะไร บทความนี้จะชวนทุกคนไปทำความรู้จักกับ “ทองคำ” ให้มากขึ้นว่าความหมายของทองคำ 10 ประเภทมีอะไรบ้าง อยากซื้อให้ตัวเองหรืออยากให้เป็นของขวัญแวะมาเช็กความคงทนของทองแต่ละสีกันก่อน

ประเภทของทองคำที่น่าสนใจ

หลาย ๆ คนคงเคยจะได้ยินคำถามที่ว่าทองคำมีกี่ประเภทกันมาบ้าง ที่คุ้นหูก็มักจะคิดว่ามีเพียง 24Kและ22K เท่านั้น แต่ที่จริงแล้วประเภทของทองคำมีมากกว่านั้น สำหรับ 10 ประเภทของทองคำที่นำมาฝากกันเริ่มจากจะมีความหมายว่าอย่างไรกันบ้าง ไปดูกันเลย 

1. ทองคำบริสุทธิ์ 24K

ทองคำบริสุทธิ์ 24 K คือ ทองคำที่มีแร่ทองอยู่ 99.99% ทองประเภท 24K นิยมเอามาทำเป็นทองคำแท่ง เพราะมีความอ่อนตัวสูงขึ้นรูปได้ยาก จึงนิยมนำมาหลอมและใส่แร่ชนิดอื่นผสมเข้าไป เพื่อให้ขึ้นรูปง่ายขึ้น แต่ในหลาย ๆ ที่ก็ยังนิยมนำทอง 99.99 % นี้มาทำเป็นเครื่องประดับ 

2. ทองคำ 22K

ทองคำ 22K คือ ทองคำบริสุทธิ์ 92% ส่วนอีก 8% เป็นโลหะชนิดอื่น ๆ ที่มีการหลอมเข้ามา สำหรับทองคำประเภทนี้นิยมในประเทศแทบตะวันออกกลาง มีราคาสูง แต่นิยมเอามาขึ้นรูปเป็นทองรูปพรรณ

3. ทองคำขาว

ทองคำขาวเป็นโลหะผสมระหว่างทองคำและโลหะสีขาวอื่น ๆ เช่น แพลเลเดียม (Palladium) นิกเกิล (Nickel) ความบริสุทธิ์ของทองคำขาววัดเป็นกะรัต คุณสมบัติของทองคำขาวขึ้นอยู่กับชนิดและปริมาณของโลหะที่นำมาผสม ทองคำขาวนิยมใช้ทำเครื่องประดับเพราะมีความทนทานมากกว่าทองคำธรรมดา

4. ทองคำชมพู

ทองคำชมพู หรือคนไทยเรียกว่า นาค เป็นโลหะผสมระหว่างทองคำและทองแดง โดยทั่วไปมีทองคำประมาณ 75% และทองแดง 25% ซึ่งทำให้เกิดสีชมพูอ่อน ๆ ความบริสุทธิ์ของทองคำชมพูมักจะอยู่ที่ 18 กะรัต ทองคำชมพูมีความแข็งแรงกว่าทองคำบริสุทธิ์ จึงนิยมใช้ทำเครื่องประดับ โดยเฉพาะแหวนหมั้นและแหวนแต่งงาน เพราะมีสีที่อ่อนหวานและโรแมนติก

5. ทองคำเขียว

ทองคำเขียวถ้าดูทั่ว ๆ ไปแล้วจะมองไม่เห็นสีเขียวจากด้านใน ทองคำเขียวเป็นโลหะผสมระหว่างทองคำและเงิน ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะมีสัดส่วนทั่วไปคือทองคำ 75% และเงิน 25% ทำให้ได้สีเขียวอ่อน ๆ นิยมใช้ในเครื่องประดับเพื่อสร้างความแตกต่าง หรือถูกนำไปตกแต่งหรือดัดแปลงโดยใช้วิธีเป็นลงยาทองเป็นหลัก

6. ทองคำสีม่วง

ทองคำสีม่วงเกิดจากการผสมกันระหว่างทองคำกับอะลูมิเนียมในสัดส่วนที่เหมาะสม ทำให้ได้สีม่วงซึ่งมาจากปฏิกิริยาทางเคมีระหว่างสองโลหะนี้ ไม่ค่อยพบในเครื่องประดับทั่วไปเนื่องจากมีความเปราะ ทองคำสีม่วงจะถูกใช้เป็นตัวเรือนแทนการใช้อัญมณีมากกว่า เพราะทองคำม่วงมีคุณสมบัติเปราะบางกว่าโลหะเจือทองคำอื่น ๆ ทำให้เกิดความเสียหายได้ง่าย

7. ทองสัมฤทธิ์

ทองสัมฤทธิ์ไม่ใช่ทองคำจริง ๆ แต่เป็นผสมกันของทองแดงกับดีบุก บางครั้งอาจมีโลหะอื่นผสมด้วย มีสีคล้ายทองคำแต่ราคาถูกกว่ามาก ใช้ทำเครื่องใช้และเครื่องประดับราคาประหยัด นิยมนำมาใช้เป็นชิ้นส่วนของเครื่องจักรอุตสาหกรรม เป็นทองที่ไม่มีการซื้อขายในตลาด

8. ทองคำฟ้า

ทองคำฟ้าเกิดจากการผสมทองคำกับเหล็กหรือนิกเกิล ทำให้ได้สีฟ้าอมเทา นิยมนำไปใช้ทำเครื่องประดับ ทำเป็นรูปทรงโดยตรง เป็นโลหะเจือที่คล้ายกับทองคำม่วงเพราะเปราะบาง 

9. ทองคำดำ

ทองคำดำเป็นการเคลือบผิวทองคำด้วยโรเดียมสีดำหรือรูทีเนียม ทำให้ได้สีดำที่มีความเงางาม นิยมใช้ในเครื่องประดับแนวโมเดิร์น ในปัจจุบันไม่ค่อยเห็นทองคำดำมากนัก ส่วนมากแล้วทองคำดำจะนิยมใช้ในการทำเครื่องเพชรพลอย

10. ทองคำเทา

ทองคำเทาส่วนมากจะนำมาทำเป็นเครื่องประดับต่าง ๆ ถูกสร้างจากการนำทองไปผสมกับแมงกานิสเงินและทองคำแดงเข้าด้วยกันทำให้ออกมาเป็นสีเทา

สรุปบทความ

สำหรับใครที่สนใจเปิดธุรกิจร้านทอง หรืออยากจะเริ่มทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องประดับ การรู้ว่าทองมีกี่ประเภท ทองมีกี่แบบ และประเภทของทองคําแต่ละแบบต่างกันอย่างไรบ้างนั้นจะช่วยต่อยอดในธุรกิจเครื่องประดับของคุณได้ โดยการนำทองแต่ละแบบมาขึ้นรูปเป็นตัวเรือน เพื่อให้มีความหลากหลาย เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า นอกจากการเรียนรู้เรื่องทองคำแล้ว การทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับทองคำ หรืออัญมณีการมองหาประกันร้านทอง ยังช่วยดูแลและปกป้องทรัพย์สินของคุณให้มีความปลอดภัย สำหรับใครที่กำลังมองหาประกันทอง AEG พร้อมช่วยดูแลธุรกิจของคุณให้มีความปลอดภัย เพื่อให้คุณรู้สึกอุ่นใจในการทำธุรกิจ